หลายคนที่มีปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียง คงคุ้นเคยกับคำว่า Relex SMILE ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขสายตาแบบไร้ใบมีดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่า Relex SMILE ยังแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ super relex และ nano relex
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงความแตกต่างของ super Relex และ nano relexเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกการผ่าตัดที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
super relex
- ใช้เลเซอร์ Femtosecond สร้าง “เลนติเคิล” (Lenticule) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อบางๆ รูปร่างคล้ายเลนส์ ภายในเนื้อกระจกตา
- ศัลยแพทย์จะทำการแยกชั้นกระจกตาออกเล็กน้อย จากนั้นใช้เครื่องมือคีบดึงเลนติเคิลออกมา
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้น -10.00 ถึง +4.00 และสายตาเอียงไม่เกิน -5.00
nano relex
- ใช้เลเซอร์ Femtosecond ที่เล็กและแม่นยำยิ่งขึ้น สร้างเลนติเคิลที่มีขนาดเล็กและบางกว่า
- แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กมากเพียง 2-4 มิลลิเมตร เทียบกับ super relex ที่แผลมีขนาดประมาณ 20 มิลลิเมตร
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาสั้นไม่เกิน -8.00 และสายตาเอียงไม่เกิน -3.00
ข้อดีของ nano relex เทียบกับ super relex:
- แผลผ่าตัดเล็กกว่ามาก ทำให้แผลหายเร็ว และลดโอกาสติดเชื้อ
- กระบวนการผ่าตัดใช้เวลาน้อยกว่า
- มีความแม่นยำในการแก้ไขสายตาสูง
- กระจกตามีความแข็งแรงมากขึ้น
ข้อควรพิจารณา:
- Nano Relex เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า super relex ทำให้ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่า
- ศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้าน nano relex อาจมีจำนวนจำกัด
สรุป
ทั้ง super relex และ nano relex ต่างก็เป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดแก้ไขสายตาที่ทันสมัยและปลอดภัย แต่ nano relex มีข้อได้เปรียบในเรื่องขนาดแผลผ่าตัดที่เล็กกว่า เวลาพักฟื้นที่น้อยกว่า และความแม่นยำที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุด ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินสภาพดวงตาและค่าสายตา รวมถึง พิจารณาถึงงบประมาณและความต้องการของแต่ละบุคคล
หมายเหตุ:
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถทดแทนคำแนะนำจากจักษุแพทย์